TIGI Hair Reborn

          ประเดิมเพจวันนี้เจ๊จะเริ่มที่ของเล่นตัวใหม่ของเจ๊ เนื่องจากว่าวันนี้ ( 29/04/2557) เจ๊ได้ไปทำผมมาใหม่ คือ "ยืด!!" กับ "ทำสี!!" บอกได้เลยว่า "เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมากๆ!!!" เพราะว่าเจ๊เป็นคนผมสั้น ผมเส้นใหญ่ หยักศก (ความจริงเคยยาวแหละ แต่เจ๊ทำมันเสียหายเอง) แต่เป็นเพราะเห็นว่าตัวเองได้บำรุงมานานแล้ว จึงมั่นใจว่าการยืดครั้งนี้ "ผมไม่เสียแน่นอน!!!" แต่ที่ไหนได้ มันผิดคาด!!! ผิดหวัง!!! อย่างหมดอาลัยตายอยาก แทบจะโกนหัวกันเลยทีเดียว เรามาดูกันว่ามันเป็นอย่างไร
เห็นมั้ยว่ามันเสียมากๆ ถ้ามองผิวเผินก็คิดว่าผมเงา สวย เพราะสุขภาพผมดี แต่ถ้าดูใกล้ๆ มันเป็นอะไรที่อธิบายยากมากๆ ...ค่าเสียหายในครั้งนี้ของเจ๊อยู่ที่ 115 ยูโร (ลองคิดเป็นเงินไทยเอานะจ้ะ) เฉพาะยืด ทำสี และเล็มส่วนปลาย ...แต่กระนั้น เมื่อเห็นสภาพผมตัวเองแล้ว เจ๊ก็ยังไม่ยอมเลิกราที่จะตามหาสิ่งละอันพันอย่างมาบำรุงผมอีก และแล้วก็ลงเอยมาที่ผลิตภัณฑ์ไลน์นี้!!! มันคือ TIGI Hair Reborn นั่นเอง รวมเบ็ดเสร็จแล้ววันนี้วันเดียวเจ๊ควักค่าเสียหายไปทั้งหมดก็ 205 ยูโร...ทั้งที่อากาศหนาวแต่เจ๊เหงื่อตกเลยแหละ (ไม่รู้ว่าในไทยมีขายหรือเปล่าเน้อ) 
2...............1................3
ภาษาข้างกล่องอันนี้เจ๊ก็ไม่รู้จริงๆว่ามันแปลว่าอย่างไร แต่จากที่พนักงานในร้านเขาบอกมาก็คือ "มันช่วยฟื้นฟูผมที่เสียขั้นรุนแรงสูงสุด" (มันสุดๆ จริงๆ) "และช่วยปกป้องสีผมให้คงเดิมได้ในระยะนาน" (อันนี้เจ๊ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า "ตูจะซื้อมาถมที่หรือไงฟะ" ทั้งๆ ที่ในบ้านก็กองเป็นพะเนินเทินทึก

1. 
Reparative Nocturnal Therapy (ราคา 33.80 ยูโร) = ตัวนี้มันคือ Night Repair คือเราต้องหมักเอาไว้ก่อนสระ ในช่วงที่เราจะเข้านอน ตื่นเช้าขึ้นมาก็สระออก หลังจากทำการยืดผม 4 ช.ม. ผ่านไป เจ๊เกิดอาการอยู่ไม่ได้เพราะกลิ่นของน้ำยายืดผม มันทำให้เจ๊พะอืดพะอม จะอ๊วก ยังไงบอกไม่ถูก (กะแดะไปเปล่า??) เจ๊จึงต้องล้างออก แต่ก่อนที่จะล้าง เจ๊ต้องการพิสูจน์ว่าไอ้เจ้า Night Repair ที่ซื้อมาเนี่ยมันจะได้ผลอย่างที่เค้าว่ามั้ย?? เค้าบอกว่า "ให้หมักในช่วงที่ผมแห้ง!! ใช่ป่ะ?? เจ๊ปั๊มใส่มือเลยค่ะ ประมาณ 10 ปั๊ม ใส่ลงไปบนเส้นผมนี่แหละ ผลที่ได้คือเส้นผมเจ๊ "จับตัวกันเป็นก้อนกระจุก" เลย "แกะไม่ออก" ด้วย สาเหตุเพราะเส้นผมมันเสียเกินบรรยาย เจ๊เลยไม่สนใจอีก แล้วหันไปหาพวกน้ำมันหมักผมที่มีอยู่ละเลงบนเส้นผมแบบชนิดที่ว่าขวดหนึ่งมี 100 ml. เจ๊ใส่มันลงไป 50 ml. แหละ เจ๊จึงจะนอนได้ ตื่นเช้ามาสระผม เส้นผมนี่เป็นขนมเจลลี่เลยทีเดียว พอเช็ดผมพอหมาดเจ๊ก็ลองเอาเจ้า Night Repair มาใส่อีก คิดว่ามันอาจจะช่วยอะไรได้ดีกว่าตอนที่ผมแห้ง ผลปรากฏว่า "เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม" อีก เจ๊ก็ต้องหันไปพึ่งน้ำมันเซรั่มต่างๆ อีกอยู่ดี คราวนี้เจ๊ลองใช้เป็นครีมนวด...ใช้เป็นครีมนวดก็ไม่ได้ผล แม้กระทั่งตอนสระยังรับรู้ได้ว่า "มันไม่เวิร์ค เส้นผมหยาบ ยังไงก็ไม่นิ่ม ขนาดเปียกน้ำ" สรุปแล้วเป็นอันว่าขวดนี้เจ๊ "โยนลงถัง" ไปแบบไม่คิดเสียดายเลยค่ะ (แต่จะโทษอะไรก็ไม่ได้ เพราะผมมันเสียยังไงก็ไม่มีทางฟื้นฟูคืนมาได้)

                                                                2.

 Deep Restoration Shampoo (ราคา 25.80 ยูโร) = For Weak, Damaged Hair เป็นแชมพูที่ช่วยเสริมสร้างโปรตีนให้กับเส้นผมที่แห้งเสีย ใช้ไปสักระยะเส้นผมเริ่มแข็ง หยาบกระด้าง ขนาดตอนสระยังรู้สึกเลยว่า "เส้นผมแทงมือ" คือมันแข็งมากๆ อาจจะเป็นเพราะผมเราเสียอยู่แล้ว มันก็เลยไม่ได้มีส่วนช่วยอะไร (คนขายเขาก็อยากขายของเนาะ ^_^)

                                                               3.
Deep Restoration Conditioner (ราคา 30.50 ยูโร) = For Weak, Damaged Hair เป็นคอนดิชันเนอร์ที่ช่วยเสริมสร้างโปรตีนให้กับผมที่แห้งเสีย และป้องกันการแห้งเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคต...ทีนี้อีเจ๊จะมาลองดูว่า "ถ้าหากอีเจ๊ใช้ผลิตภัณฑ์นี้หมดแล้วผลมันจะเป็นอย่างไร???"
                                             อันนี้เป็นรูปตอนผมเปียก

ผลสรุปออกมาว่าเจ๊ "ทนใช้แชมพูยี่ห้อนี้จนหมดขวดไม่ได้" เพราะยิ่งใช้ก็ยิ่งรู้สึกว่า "มันทำให้เส้นผมแข็งขึ้นๆ ไม่ใช่แข็งแรงขึ้นนะ แต่เป็นแข็งกระด้าง บ่งบอกว่า "เส้นผมของเจ๊เกินเยียวยา" ยิ่งเวลาที่ผมแห้งแล้ว เจ้าประคุณรุนช่อง เจ๊นึกว่าเจ๊ใส่วิกผมไม้กวาดหยากไย่ มันหาส่วนดีไม่ได้เลย แถมฟูยังกะแผงคอสิงห์โต สรุปแล้วคือว่า "เจ๊ไม่เหลียวแลอีกเลยทั้งเซต เก็บเอาไว้ผสมเป็นน้ำยาล้างห้องน้ำไปเลย"


หลังจากนั้นอีเจ๊ก็จัดการไปตัดผมที่เสียออกอีก จนมันเหลือแค่นี้แหละ เพื่อนๆ เห็นสภาพเส้นผมมั้ยคะว่ามันเหลือส่วนที่ดีอยู่เท่าไหร่ ที่เห็นเงาๆ นั่นคือส่วนดีที่ยังเหลือ แล้วเจ๊ก็ใช้วิธีบำรุงด้วยอย่างอื่นๆ ตามธรรมชาติ สาบานว่าต่อจากนี้สัก 5 ปี อีเจ๊จะไม่ยุ่งวุ่นวายอะไรกับเส้นผมอีกแล้ว ให้ตายเหอะ จ๊อดดดด ที่สำคัญ "หากจะทำอะไรกับเส้นผม อีเจ๊จะไม่ทำที่เมืองนอกเด็ดขาด ยังไงๆ อีเจ๊ก็จะกลับมาทำที่เมืองไทยบ้านเรา...บ้านตรูดีกว่าเว้ยยย






ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Cetaphil Oily Skin Cleanser, For oily or combination skin

Alvira, Skin Essentials, Make-up Remover Waterproof